ข่าวดังของวงการฟุตบอลบราซิลในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาคงหนีไม่พ้นการที่ โรบินโญ่ อดีตดาวเตะชื่อก้องถูกตัดสินว่าจำเป็นต้องชดใช้โทษจำคุกที่กรงเหล็กในแดนแซมบ้า หลังเขารอดจากการต้องไปนอนหลังลูกกรงมานาน

ย้อนความหลังก่อนว่าเมื่อปี 2017 ศาลในนครมิลาน ประเทศอิตาลี ตัดสินว่า โรบินโญ่ มีความผิดจากการร่วมมือกับเพื่อนชายอีก 5 คนเพื่อทำการข่มขืนหญิงชาวแอลเบเนียภายในไนต์คลับในนครมิลาน ซึ่งตอนนั้นเขายังถือเป็นนักเตะของ เอซี มิลาน อยู่ และบทลงโทษที่เขาเจอคือการถูกจำคุก 9 ปี

อย่างไรก็ตาม โรบินโญ่ ยังไม่เคยติดคุกแม้แต่วินาทีเดียว เพราะช่วงที่ผ่านมาเขาอยู่ใน บราซิล และที่นั่นก็ไม่มีนโยบายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน แต่มันมีการเสนอว่าให้ โรบินโญ่ ติดคุกที่ บราซิล แทนก็ได้ และล่าสุดมันก็มีคำตัดสินแบบนั้นออกมาจริงๆ

แน่นอนว่าหากพูดถึงเฉพาะคนดังในวงการฟุตบอลแล้วนั้น นี่ถือเป็นหนึ่งในบทลงโทษที่รุนแรงที่สุดก็ว่าได้ แต่หากพูดถึงแวดวงลูกหนังบราซิลแบบโดยรวมแล้วนั้น มันเคยมีคนที่เจอบทลงโทษหนักกว่า โรบินโญ่ มาแล้ว นั่นคือ บรูโน่ ชายที่เคยโดนสั่งนอนคุก 22 ปี

บรูโน่ หรือที่มีชื่อเต็มว่า บรูโน่ แฟร์นันส์ ดาส โดเดส เดอ ซูซ่า นั้น เล่นเป็นผู้รักษาประตู โดยเขาสร้างชื่อได้มากที่สุดตอนเล่นกับ ฟลาเมงโก้ หลังจากเล่นได้โดดเด่นจนได้แชมป์กับทีมหลายรายการ อย่างเช่นแชมป์ลีกของ ริโอ เดอ จาเนยโร . สมัย และแชมป์ ซีรี่ เอ 1 หน เป็นต้น

ฟอร์มอันยอดเยี่ยมในช่วงนั้นของ บรูโน่ ทำให้เขาเป็นที่สนใจของ เอซี มิลาน และว่ากันว่ามันถึงขั้นมีการเจรจาเรื่องสัญญากันแล้วด้วย ซึ่งหากทุกอย่างลุล่วงไปได้ด้วยดีนั้นมันก็จะทำให้ บรูโน่ ได้รับค่าเหนื่อยเยอะกว่าสมัยเล่นที่ บราซิล อย่างมาก

ถึงกระนั้น ชีวิตของเขาก็พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือเมื่อถูกฟ้องร้องว่าเป็นคนบงการให้ฆ่า เอลิซ่า ซามูดิโอ นางแบบสาวรายหนึ่งจนทำให้ถูกจับกุมตัวเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม ปี 2010

เท้าความก่อนว่า บรูโน่ กับ เอลิซ่า รู้จักกันในช่วงปี 2009 โดยฝ่ายชายอ้างว่าเจอเธอที่งานปาร์ตี้ของอดีตเพื่อนร่วมทีม ฟลาเมงโก้ ในตอนนั้น และพวกเขาก็ถึงขั้นมีเพศสัมพันธ์กันทั้งที่ฝ่ายชายแต่งงานอยู่แล้ว ซึ่งที่จริง บรูโน่ ใส่ถุงยางเอาไว้ แต่ถุงยางที่ว่าดันขาดระหว่างการทำกิจกรรมพอดี

ในเวลาต่อมาฝ่ายหญิงก็บอกว่าเธอตั้งท้องลูกของ บรูโน่ แล้ว แต่ฝ่ายชายไม่ยอมรับว่าเด็กในท้องเป็นลูกของเขา แถมยังตัดสินใจยุติความสัมพันธ์กับเธออย่างรวดเร็วด้วย

แน่อน เอลิซ่า ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เธอยืนกรานเสียงแข็งมาโดยตลอดว่าเด็กในท้องคือลูกของเธอกับ บรูโน่ และเธอก็พิสูจน์ถึงเรื่องนั้นได้จริงๆ หลังจากที่เด็กคนดังกล่าวลืมตาดูโลกแล้ว พร้อมกับทำการฟ้องร้อง บรูโน่ อย่างหนัก

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 9 มิถุนายน ปี 2010 มันก็เกิดเรื่องน่าประหลาดขึ้น เมื่อจู่ๆ เอลิซ่า หายตัวไปดื้อๆ และตอนนั้นลูกชายที่ เอลิซ่า ให้กำเนิดออกมานั้น ก็ไปอยู่กับภรรยาของ บรูโน่ ซะอีก

เรื่องดังกล่าวนำไปสู่การตั้งข้อสงสัยว่า บรูโน่ ทำอะไรไม่ดีกับ เอลิซ่า หรือไม่ จนนำไปสู่การที่ศาลสั่งจับเขาในเดือนกรกฎาคมของปีเดียวกัน ตามที่กล่าวเอาไว้ในข้างต้น และมันก็ส่งผลให้ญาติวัย 17 ปีของ บรูโน่ ให้การกับตำรวจว่าตัวเองกับ ลุยซ์ เอ็นรีเก้ แฟร์เรยร่า โรเมา เพื่อนของ บรูโน่ ร่วมมือกันลักพาตัว เอลิซ่า ไปเอง พร้อมบอกด้วยว่านางแบบสาวคนดังกล่าวเสียชีวิตไปแล้ว แต่ไม่ได้บอกว่าเธอตายยังไงหรือศพอยู่ที่ไหน ก่อนที่ บรูโน่ จะเอาลูกไปเลี้ยงต่อ

เหตุการณ์ทั้งหมดทำให้ ฟลาเมงโก้ ตัดสินใจระงับสัญญาของ บรูโน่ กับสโมสรทันที ขณะที่ทีมทนายความของสโมสรก็ไม่ไปช่วยว่าความให้เขาอีกต่อไปด้วย ส่วนการเจรจากับ เอซี มิลาน ก็แน่นอนว่าล่มไป

ในเวลาต่อมา โรเมา คนที่โดนอ้างว่ามีส่วนลักพาตัว เอลิซ่า นั้น ให้สัมภาษณ์ว่า บรูโน่ เครียดกับเรื่องที่เกิดขึ้นจนเคยพยายามฆ่าตัวตาย 2 ครั้งตอนอยู่ในคุกระหว่างที่กำลังรอให้การพิจารณาคดีเริ่มอย่างเป็นทางการ ซึ่งหน่วยงานภาครัฐปฏิเสธเรื่องนั้น แต่ก็มีการระบุว่า บรูโน่ เคยสลบไปดื้อๆ ครั้งหนึ่งเพราะระดับน้ำตาลในเลือดต่ำเกินไป

เมื่อถึงช่วงปลายเดือนกรกฏาคมของปี 2010 บรูโน่ ก็โดนตั้งข้อหาทั้งการฆาตกรรม, ลักพาตัว, ซ่อนศพ, จงใจก่อตั้งกลุ่มอาชญากร และลวนลามทางเพศผู้เยาว์ โดยทางตำรวจระบุว่าญาติของ บรูโน่ ให้การด้วยว่า เอลิซ่า ถึงขั้นโดนหั่นศพเป็นชิ้นๆ และอวัยวะบางส่วนก็ถูกนำไปให้สุนัขกินเพื่อเป็นการทำลายหลักฐาน ขณะที่อีกส่วนหนึ่งโดนเอาไปฝังคอนกรีต

ท้ายที่สุด บรูโน่ ก็ยอมรับว่าเขาเป็นคนวางแผนการฆาตกรรม เอลิซ่า จริงๆ ทำให้คดีนี้กลายเป็นที่พูดถึงอย่างมากในบราซิล ในประเด็นที่ว่านักกีฬาบางคนมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม รวมถึงการก่อเหตุอาชญากรรมกับผู้หญิงที่มีจำนวนมากขึ้น และเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2013 ศาลก็มีคำตัดสินสั่งจำคุก บรูโน่ เป็นเวลา 22 ปี โดยนับรวมกับช่วงเวลาที่เขาติดคุกมาตั้งแต่ตอนเดือนกรกฎาคมปี 2010 แต่ทาง บรูโน่ ก็ตั้งใจที่จะอุทธรณ์โทษให้ได้

ทั้งนี้ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2017 หรือก็คือหลังจากที่ บรูโน่ ติดคุกไปราว 6 ปีกับ 7 เดือนนั้น ทีมทนายความของ บรูโน่ ยื่นเรื่องขอให้ลูกความของพวกเขาได้ออกมาใช้ชีวิตนอกคุกในระหว่างการอุทธรณ์ โดยอ้างว่ามันเป็นเพราะเกิดความล่าช้าในกระบวนการอุทธรณ์ ซึ่งมันมีการอนุมัติในเรื่องนั้น ทำให้มันกลายเป็นข่าวใหญ่พอตัว โดยถึงแม้ช่วงนั้นคุณแม่ของ เอลิซ่า จะพยายามยื่นเรื่องขอให้ บรูโน่ กลับไปติดคุก แต่มันก็ไม่เป็นผล

ตอนที่เขาออกมานั้น บรูโน่ ได้รับข้อเสนอจากทีมฟุตบอลหลายทีม ก่อนที่เขาจะตอบตกลงกับ โบอา เอสปอร์เต้ คลับ โดยเขาเคยให้สัมภาษณ์ด้วยว่า "อะไรที่มันเกิดก็ถือว่าเกิดขึ้นไปแล้ว ผมทำพลาดไป เป็นการทำพลาดที่ร้ายแรงมากๆ ด้วย แต่คนเราย่อมทำผิดพลาดได้เป็นธรรมดาร ผมไม่ใช่คนเลว ผู้คนพยายามฝังความฝันของผมเพียงเพราะการทำพลาดครั้งเดียวของผม แต่ผมอ้อนวอนต่อพระผู้เป็นเจ้าเพื่อให้ยกโทษให้กับผม ดังนั้นผมจึงจะเดินหน้าเล่นฟุตบอลต่อไป"

ช่วงเวลาอิสระของ บรูโน่ หมดลงอย่างรวดเร็ว เพราะในช่วงเดือนเมษายนของปี 2017 ศาลฎีกาในบราซิลสั่งให้จับกุมตัวเขาอีกครั้ง ด้วยเหตุผลว่าทีมทนายความของ บรูโน่ เองนั้นมีส่วนผิดในการทำให้กระบวนการด้านการอุทธรณ์ล่าช้า ส่งผลให้ บรูโน่ ต้องกลับไปใช้ชีวิตหลังกรงเหล็กอีกรอบ

กระทั่งเมื่อถึงเดือนกรกฎาคม ปี 2019 บรูโน่ ก็ได้ออกจากคุก เพียงแต่มีเงื่อนไขพิเศษ นั่นคือแม้ว่าตอนกลางวันเขาจะะทำงานหรือไปซ้อมได้ แต่ตอนกลางคืนนั้นต้องถูกควบคุมตัวอยู่แต่ในบ้านของตัวเอง โดยตอนแรกมันมีการตั้งใจว่าจะให้เขากลับไปอยู่ในคุกในแต่ละคืน แต่ทางเรือนจำไม่มีสภาพดีพอที่จะปฏิบัติตามแนวทางนั้นได้

หลังจากนั้น บรูโน่ ก็ได้เซ็นสัญญากับทีมฟุตบอลบางทีมด้วย อย่างเช่น ริโอ บรังโก้, อัตเลติโก้ ชาริโอช่า และ โอริออน ฟุตบอล คลับ ที่เซ็นสัญญากับเจ้าตัวเมื่อช่วงเดือนมีนาคม ปีก่อนนี่เอง

สนับสนุนโดยเว็บไซต์ Ufa